สูตรกาแฟแครมบรูว์เล หากจะเอ่ยถึงขนมที่ได้รับควมนิยมในปัจจุบันนี้ แครมบรูว์เล น่าจะเป็นชื่อที่หลายคนนึกถึง ด้วยรสชาติที่เข้มข้นหอมมันของครีมไข่ของครีมไข่ เสิร์ฟ์มาอุ่น พร้อมกับแผ่นน้ำตาลไหม้ที่ให้รสสัมผัสกรุบกรอบ ทำให้ขนมหวานชนิดนี้ครองใจคอขนมได้อย่างง่ายดาย วันนี้เราจะชวนคุณมชงกาแฟแครมบรูว์เล เครื่องดื่มที่นำเอาเสน่ห์ของแครมบรูว์เล ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของครีมวนิลลาและรสสัมผัสกรุบกรอบของน้ำตาลไหม้ มาใส่ไว้ในแก้วกาแฟ

กาแฟแครมบรูว์เลคืออะไร
กาแฟแครมบรูว์เล เป็นกาแฟเย็นที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ขนมแครมบรูว์เล ซึ่งมีต้นกำเนิกจากประเทศฝรั่งเศส คำว่า แครมบรูว์เล นั้น แปลได้ว่าครีมที่ถูกเผา ซึ่งตรงกับลักษณะของขนมที่เป็นครีมคัสตาร์ทไข่มีแผ่นน้ำตาลไหม้เคลืบด้านบน เมื่อจะรับประทานก็ใช้ช้อนเคาะแผ่นน้ำตาลให้แตก แล้วตักขนมรับประทาน แครมบรูว์เลจึงมีทั้งรสสัมผัสกรุบกรอบของน้ำตาลไหมและความนุ่มนวลของครีมคัสตาร์ท มีรสชาติที่หวานละมุนละไมจนทำให้ขนมชนิดนี้เป็นที่นิยม
กาแฟครีมบรูว์เลที่เรานำมาแนะนำให้รู้จักในวันนี้ ยังเสน่ห์ของขนมแครมบรูว์เล ด้วยการสร้างแผ่นน้ำตาลไหม้วางไว้เหนือวิปครีมวานิลลา ให้คนได้เคาะแผ่นน้ำตาลให้แตกเหมือนต้นฉบับ เพียงแต่คุณจะได้รับรสชาติของกาแฟนมี่ทำจากกาแฟเอสเปรโซ่เข้มข้น ซึ่งเข้ากันได้ดีกับวิปครีมวานิลลาและแผ่นน้ำตาลไหม้ด้วย
กาแฟแครมบรูว์เลมีรสชาติอย่างไร
หลังจากเคาะแผ่นน้ำตาลไหม้ให้แตกคุณก็จะได้ชิมรสของแผ่น้ำตาลไหม้ที่หวานแหลมกับวิปครีมวานิลลาที่มีรสชาตินุ่มนวล ตามด้วยรสเข้มข้นของกาแฟเอสเปรสโซ่ที่มีนมสดหอมันมาเบรกรสเข้มให้ดื่มง่าย ความหวานหอมของกแฟแก้วนี้จึงเหมาะกับคอกาแฟที่ชอบกาแฟที่มีรสหวาน โดยเฉพาะสาว ๆ หรือวัยรุ่นที่ชอบกาแฟรสอร่อยเหมือนขนม และมีหน้าตาสวยงาม
ส่วนผสมของกาแฟแครมบรูว์เล มีส่วนผสมอะไรบ้าง
ส่วนผสมของกาแฟแครมบรูว์เล ประกอบด้วยวัตถุดิบที่หาได้ง่าย ๆ ในบ้าน โดยคุณสามารถเตรียมวัตถุดิบได้ตามรายการดังต่อไปนี้
- กาแฟเอสเปรสโซ่ 2 ช็อต
- นมสด 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทรายไม่ขัดสี 2 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวานิลลาสกัด 2 ช้อนชา
- วิปครีม 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำแข็ง
กาแฟที่นำมาใช้ในการชงกาแฟแครมบรูว์เลนั้น ควรเป็นกาแฟเอสเปรสโซ่ที่มีรสชาติเข้มข้นมีกลิ่นหอมที่ชัดเจน เพื่อที่เวลานำมาผสมกับวัตถุดิบอื่นแล้วกลิ่นของกาแฟจะได้ไม่ถูกกลบลงไป โดยคุณสามารถเลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้มหรอคั่วเข้มมาก เพื่อสกัดกาแฟให้ได้กลิ่นหอมตามที่ต้องการ และเพื่อให้ได้กาแฟเอสเปรสโซ่ที่ดีที่สุด คุณอาจจะเลือกสกัดกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ หรือหม้อต้มกาแฟมอคค่าผลก็จะได้ผลดีไม่ต่างกัน
น้ำตาลในสูตรนี้นำมาใช้ในการสร้างแผ่นน้ำตาลเคลื่อบด้านบนวิปครีม น้ำตาลที่ใช้นั้นคือน้ำตาลทรายไม่ขัดสี ซึ่งมีลักษณะเป็นเม็ดร่วนเหมือนน้ำตาลทรายทั่วไป แต่มีผลึกที่ใหญ่กว่าและมีสีน้ำตาลทองเนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการขัดสี น้ำตาลทรายไม่ขัดสีนี้แตกต่างจากน้ำตาลทรายแดงที่มีเนื้อนิ่มเมล็ดละเอียดและเกาะตัวกับเนื่องจากมีความชื้นในน้ำตาลสูง ซึ่งน้ำตาลทรายแดงนี้ไม่สามารถนำมาใช้ในสูตรนี้ได้เนื่องจากไม่สามารถเผาให้เป็นแผ่นน้ำตาลได้เหมือนน้ำตาลทรายไม่ขัดสีที่เราแนะนำไปข้างต้น
การเลือกนมและครีมเพื่อนำมาผสมในกาแฟแก้วนี้จึงเป็นเล็ดลับสำคัญ ที่จะทำให้กาแฟแก้วนี้มีรสชาติและรสสัมผัสที่เข้มข้นเหมือนแครมบรูว์เลต้นฉบับ เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้นมสดเต็มมันเนยในการผสม เพื่อให้กาแฟมีรสชาติที่เข้มข้น กว่าการใช้นมพร่องมันเนายหรือนมไขมันต่ำ ส่วนครีมที่เราแนะนำให้ใช้คือวิปปิ้งประเภทเดลี่ ซึ่งทำจากนมโคสด ซึ่งให้รสเข้มข้นและมีกลิ่นหอมนมตามธรรมชาติ กว่าวิปปิ้งครีมประเภทนอนเดลี่ ซึ่งทำจากไขมันพืช
วิธีการชงกาแฟแครมบรูว์เล
เมื่อเตรียมส่วนผสมเรีบร้อยแล้ว คุณสามารถชงกาแฟแครมบรูว์เลได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ชงกาแฟเอสเปรสโซ่ด้วยเครื่องสกัดกาแฟเอสเปรสโซ่ หรือหม้อต้มกาแฟมอคค่าพ็อต จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้อุณหภูมิของกาแฟเย็นลงเล็กน้อย
- นำกลิ่นวนิลลาสกัดใส่ลงไปในวิปปิ้งครีม แล้วตีด้วยเครื่องผสมอาหารแบบมือถือหรือใช้ตะกร้อมือตี ให้ขึ้นฟูเป็นวิปครีม
- เติมน้ำแข็งลงไปในแก้วทรงสูงประมาณครึ่งแก้ว
- รินนมสดลงไป
- รินกาแฟเอสเปรสโซ่ที่มีอุณหภูมิเย็นแล้วลงไป
- เติมวิปครีมลงด้านบนโดยให้ปริมาณของวิปครีมพอดีกับปากแก้ว
- โรยน้ำตาลทรายไม่ขัดสีเคลือบให้ทั่ววิปครีม แล้วใช้หัวพ่นไฟเบิร์นน้ำตาลจนไหม้ เกาะตัวเป็นแผ่น
- เสิร์ฟกาแฟพร้อมด้วยช้อนโลหะขนาดเล็ก สำหรับเคาะแผ่นน้ำตาลก่อนดื่ม
เมื่อชงกาแฟแครมบรูว์เลเรียบร้อยแล้วคุณก็จะได้กาแฟที่มีหน้าตาสวยงาม และมีลูกเล่นด้วยการเคาะแผ่นน้ำตาลให้แตกก่อนดื่ม เหมือนกับการรับประทานขนมแครมบรูว์เล คุณจึงสามารถชงกาแฟแก้วนี้ดื่มเอาอร่อย หรือจะชงเสิร์ฟให้เพื่อนฝูงก็ได้กาแฟที่มีหน้าตาสวยงามเหมือนในร้านหรูได้ทีเดียว